5 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ สามารถเลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดความยั่งยืนสูงสุด 2. พิจารณาความรู้คู่คุณธรรม มีการศึกษาเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง (ทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติจริง) ในวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดํารงชีวิต โดยใช้สติปัญญาในการตัดสินใจ ต่างๆ อย่างรอบรู้ รอบคอบ และมีเหตุผลที่จะนําความรู้ต่างๆ มาปรับใช้อย่างมีขั้นตอนและระมัดระวัง ในการปฏิบัติ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเพียรความอดทน และใช้สติปัญญา อย่างชาญฉลาดในการดําเนินชีวิตบนทางสายกลาง คุณธรรมที่ทุกคนควรจะศึกษาและนํามาปฏิบัติ มีดังนี้ 1. การรักษาความสัตย์ ความจริงใจต่อตนเองที่ประพฤติปฏิบัติต่อสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นธรรม 2. การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความดีนั้น 3. ความอดทน อดกลั้น และอดออมที่จะไม่ประพฤติตนไปในทางที่ไม่ดี 4. การรู้จักละวางความชั่ว ไม่ทุจริตและรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อคนอื่น หลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีดังนี้ 1. การบริหารความเสี่ยงทางการตลาดที่ชัดเจน โดยมีความรู้จริงในการทําตลาด และมีตลาดที่ หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง 2.
การอนุรักษ์ 3. การฟื้ นฟู 4. การพฒั นา 5. การถ่ายทอด 6. การส่งเสริมกจิ กรรม 7. การเผยแพร่แลกเปล่ียน 8. การเสริมสร้างปราชญ์ท้องถน่ิ
"การลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง" นักธุรกิจทุกคนต่างรู้จักคำพูดนี้ดี แต่ถ้าไม่กล้าที่จะลองเสี่ยงแล้วจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้อย่างไร... จริงไหม? ทุกธุรกิจย่อมต้องมีการลงทุนและมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น เจ้าของกิจการหรือนักธุรกิจต่างต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้ ทางออกที่หลายคนพูดถึงกันมากคือการดำเนินธุรกิจอย่างพอเพียง... เอาแล้วสิ หลายคนคงสงสัยใช่ไหมว่า ดำเนินธุรกิจอย่างพอเพียงเป็นอย่างไร แล้วมันเกี่ยวข้องอย่างไรกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงนี้ ดำเนินธุรกิจอย่าง 'พอเพียง' คืออะไร ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงคำว่า 'พอเพียง' กันเสียก่อน 'พอเพียง' เป็นคำเรียกย่อๆ ของคำว่า 'เศรษฐกิจพอเพียง' ซึ่งเป็นแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริเพื่อชี้แนวทางในการดำเนินชีวิตแก่ปวงชนชาวไทยตั้งแต่ พ. ศ.
พิจารณาจากความสามารถในการพึ่งตนเอง ที่เน้นความสมดุลทั้ง 3 คุณลักษณะ คือ พอประมาณ มีเหตุมีผลและมีภูมิคุ้มกันมาประกอบการตัดสินใจเรื่องต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบ ระมัดระวัง พิจารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควรและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมทั้ง 5 ประการ คือ 1. 1 ด้านจิตใจ มีจิตใจเข้มแข็ง ฝึกฝนตนเองได้ มีจิตสํานึกที่ดี เอื้ออาทร ประนีประนอมและ นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก 1. 2 ด้านสังคม มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้รักสามัคคี สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว และชุมชน รู้จักผนึกกําลัง มีกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง 1. 3 ด้านเศรษฐกิจ ดํารงชีวิตอยู่อย่างพอดี พอมี พอกินสมควรตามอัตภาพ และฐานะของตน ประกอบอาชีพสุจริต (สัมมาอาชีวะ) ด้วยความขยันหมั่นเพียร อดทนใช้ชีวิตเรียบง่าย โดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผู้อื่น มีรายได้สมดุลกับรายจ่าย รู้จักการใช้จ่ายของตนเองและครอบครัวอย่างมีเหตุผลเท่าที่ จําเป็น ประหยัด รู้จักการเก็บออมเงินและแบ่งปันผู้อื่น 1. 4 ด้านเทคโนโลยี รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและภูมินิเวศ พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม 1.
ต้องรู้จักซึ่งตนเอง โดยรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อนํามา กรทางานดีขึ้น ทํางานได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 2. ต้องรุ้จักประมาณการในการบริโภค โดยจะต้องมีสติในการใช้จ่าย การลงทุนกับการบริโภคให้เกิด ความสมดุลให้ได้ประโยชน์คุ้มค่ากับต้นทุนต่างๆ ที่ต้องเสียไป 3. การดำเนินชีวิตหรือการบริหารงงาน จะต้องมีสติรอบคอบ ไม่ประมาท โดยต้องนึกถึง ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและวางระบบรองรับเพื่อความปลอดภัย โดยต้องจัดให้มีแผนสํารองไว้เพื่อความ ปลอดภัย รักษาสภาพคล่อง คือ ไม่ลงทุนมากเกินไป 4. ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ตั้งแต่การต้องมีความโปร่งใส โดยมีธรรมาภิบาล มีความซื่อสัตย์สุจริต มีการพัฒนา สร้างประสิทธิภาพเพิ่มความแข็งแกร่ง เพื่อให้เป็นภูมิคุ้มกันตอปัญหาที่มากระทบ แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
ผลิตให้มาก – ทำในสิ่งที่รักให้มาก เพื่อให้การทำงานเป็นเหมือนงานอดิเรก 2. ใช้แต่พอดี – มีความสุขจากสิ่งที่มี สิ่งที่เป็น 3.
ความสามารถในการบริหารงาน 2. ต้องแสวงหาความรู้กบั สร้างความเข้มแขง็ หรือเพมิ่ ความขยนั ขันแข็งในการทางาน 3. การมีเป้าหมายด้านคุณภาพชีวติ แนวทางการนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการดาเนินชีวติ เศรษฐกิจพอเพียงเป็ นแนวทางในการดาเนินชีวิตของคนต้ังแต่ระดับบุคคลจนถึงระดับสังคมและ ประเทศชาติ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการกับการดาเนินชีวิตได้อย่างสมดุล โดยสามารถนาแนวทางการ เศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในการจัดการกบั ชีวติ ได้ดงั นี้ หน่วยท่ี 9 การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเป็ นผู้ประกอบการ 1. รู้จกั ใช้เงนิ ให้เหมาะสม 2. รู้จักเลือกให้เหมาะสม 3. รู้จกั การบริโภคท่ีเหมาะสม 4. หลกี เลี่ยงอบายมุข การทาบัญชีครัวเรือน การทาบัญชีครัวเรือน คือ การจดบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเง่ือนไขปัจจัยในการดารงชีวติ ของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ ข้อมูลท่ีได้จากการบันทึกจะเป็ นตัวบ่งชี้อดตี ปัจจุบัน ในอนาคตของชีวติ รูปแบบการบันทึกการปฏิบัติงานและการทาบัญชีรายรับรายจ่าย 1. การบันทึกเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและวสั ดุอุปกรณ์ 2. การบันทึกการปฏิบัติงาน 3. การบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย หน่วยท่ี 9 การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเป็ นผู้ประกอบการ การนาหลักการบัญชีมาประยุกต์ใช้กบั เศรษฐกิจพอเพยี ง การจดั ทาบัญชีครัวเรือน มขี ้นั ตอนดังนี้ 1.
หน่วยที่ 9 การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเป็ นผู้ประกอบการ การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนินธุรกิจ เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นปรัชญาที่ชี้ถึงการดารงและปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับต้ังแต่ระดับ บุคคล ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและการบริหารประเทศให้ดาเนินไปบน ทางสายกลาง คุณธรรมที่ทุกคนควรจะศึกษาและนามาปฏิบัติ มดี ังนี้ 1. การรักษาความซื่อสัตย์ 2. การรู้จกั ข่มใจตนเอง 3. ความอดทนอดกล้นั 4. รู้จักละวางความช่ัว หน่วยที่ 9 การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเป็ นผู้ประกอบการ หลกั เกณฑ์ในการประกอบธุรกจิ แบบเศรษฐกิจพอเพยี ง มดี งั นี้ 1. การบริหารความเสี่ยงทางการตลาดที่ชัดเจน 2. ไม่ให้ความสาคญั กับการสร้างกาไรสูงสุด 3. การดาเนินธุรกจิ ท่ีตนเองมีความรู้จริง 4. มีเหตุผลในการขยายตลาด 5. มคี วามซ่ือสัตย์สุจริตในการประกอบการ 6. การให้บริการลูกค้าอย่างจริงใจและโปร่งใส 7. ไม่มีความโลภมากเกินไป ธุรกิจพอเพียง หมายถึง การดาเนินธุรกิจที่คานึงถึงความมั่นคงและย่ังยืนมากกว่าการแสวงหา ผลประโยชน์ในระยะส้ัน หน่วยท่ี 9 การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเป็ นผู้ประกอบการ การประยุกต์ใช้เศรษฐกจิ พอเพยี งในภาคธุรกิจ การบริหารจดั การด้วยความพอเพยี งน้ัน จะต้องเร่ิมท่ีเป้าหมาย ได้แก่ 1.
ไม่ให้ความสําคัญกับการสร้างกําไรสูงสุด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นแต่เพียงอย่างเดียว แต่คํานึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของธุรกิจ 3. การดําเนินธุรกิจที่ตนเองมีความรู้จริง ไม่แข่งขันในตลาดที่ตนเองไม่มีความชํานาญ 4. มีเหตุผลในการขยายตลาด แบบค่อยเป็นค่อยไป รู้จักวางแผนอย่างรอบคอบ 5. มีความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบการ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคและผู้ใช้แรงงาน 6. การให้บริการลูกค้าอย่างจริงใจและโปร่งใส อย่างสม่ําเสมอ 7.
ความสามารถในการบริหารงาน โดยต้องสอดคล้องกับโลกภายนอกโดยไม่ขยายตัวเกินกว่า กําลังที่มีอยู่ หรือต้องมีประสิทธิผลในทางการตลาดหรือการตามทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องมีสติและความรู้ 2. ต้องแสวงหาความรู้กับสร้างความเข้มแข็งหรือเพิ่มความขยันขันแข็งในการทํางาน เคยมีการติดตามเทคนิควิทยาการ แล้วรู้จักเลือกเช้เทคโนโลยีและเอามาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ใน 3.